ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เที่ยวปากีสถาน กับ Koffee Nutt ตอน ทุ่งหญ้าแห่งเทพนิยาย Fairy Meadows (1)

 

เที่ยวปากีสถาน กับ Koffee Nutt  ตอน ทุ่งหญ้าแห่งเทพนิยาย Fairy Meadows (1)

Fairy Meadows คืออะไร?

หากทุกคน ลอง Google หา “สถานที่ที่สวยที่สุดในปากีสถาน” แฟรี่มีโดวส์จะต้องเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกค้นหาเจอแบบไม่ต้องสงสัย 

แฟรี่มีโดวส์ ภาพจากในอินเตอร์เน็ตที่โด่งดัง คือที่ราบสูงสีเขียว อยู่ใกล้กับเทือกเขา Nanga Parbat ยอดเขาที่สูงเป็นอันดับ9ของโลกอันยิ่งใหญ่

ในอดีต Fairy Meadows เป็นที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน ถูกค้นพบโดย Herman Buhl นักปีนเขาชาวเยอรมันและกลุ่มเพื่อน ที่เดินทางมาที่นี่ในช่วงปี 1950 

เมื่อเห็นสถานที่นี้ในครั้งแรก พวกเขาเรียกสถานที่นี้ว่า “mã rchenwiese” ซึ่งแปลว่า "ทุ่งหญ้าแห่งเทพนิยาย"

ทุ่งหญ้า ธารน้ำแข็ง ป่าไม้ ภูเขา ท้องฟ้า ทั้งหมดผสมผสานกันจนเกิดความสมบูรณ์แบบ ที่ Fairy Meadows ด้วยความสูง 3,300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

การเดินทางนั้นไม่ใช่เรื่องสบายนัก  เราเดินทางจาก Chilas ไปที่ Raikot bridge ประมาณชั่วโมงครึ่ง จากนั้นเปลี่ยน Jeep วิ่งบนถนน Fairy Meadows ถนนที่ขึ้นชื่อว่าอันตรายที่สุดในโลก เพราะทั้งแคบ ขรุขระ เป็นหินกรวด ซิกแซก รถสวนกัน ชะโงกมอง โอ้วโหว เหว แต่คนขับชำนาญมาก 14 กิโลเมตร ใช้เวลาชั่วโมงครึ่งถึง Tato เป็นชั่วโมงครึ่งที่สุดแทนจะทรมาน เหมือนโดนจับใส่ขวดแล้วเขย่าๆๆๆๆๆ ตลอดเวลา

ถึง Tato จะถึงจุดเริ่มเดินเข้า Fairy Meadows ระยะทาง5-6กิโล แบบทางชัน!!! 

นัทเดินได้50 เมตร เปลี่ยนใจโบกม้า ที่ผ่านมาพอดี (ที่นี่มีม้าให้บริการค่ะ) นั่งไปสวยๆ ทางโคตรชัน เหมือนเดินขึ้นเขา โชคดีที่ไม่เดินเอง ที่สำคัญที่สุดคือ มีหิมะที่เกาะเป็นน้ำแข็งแล้ว สำหรับคนซุ่มซ่ามแบบนัท ลื่นหัวทิ่มแน่นอนถ้าไม่มีcrampons 

ส่วนข้อเสียของการนั่งม้าคือ เค้าปล่อยเดินอิสระ ไม่ได้จูงให้และม้าก็ชอบเดินเลาะหน้าผาแบบชิดให้หวาดเสียว

วิวระหว่างทางสวยมาก Nanga Parbat ภูเขาที่สูงอันดับ9 ของโลกสูง 8126เมตร โชว์ตัวตลอดทาง ยิ่งสูงยิ่งหนาว สุดท้ายม้าก็พาเรามาถึง 

การเดินสำรวจรอบๆแฟรี่มีโดวส์ถือว่า สวยมาก สวยทุกมุม ถือได้ว่าคุ้มค่ามากๆกับการมาเยือนในที่แห่งนี้ 

เบื้องหน้าคือ Nanga Parbat ยอดเขาอันเลื่องชื่อ และธารน้ำแข็งอันเป็นเอกลักษณ์

เมื่อพระอาทิตย์จะตกดิน แสงสีทองที่พาดผ่านเทือกเขายิ่งทำให้บรรยากาศตอนนั้น ยิ่งสวยเกินบรรยาย




เราพักที่ Broadway เป็นโรงแรมที่อยู่สูงสุดได้เลย มองเห็นวิวโดยรอบ อาหารอร่อยมากโดยเฉพาะ chicken karahi แพะ แกะทำดีมากไม่มีกลิ่นสาบ ในห้องมีเตาผิงกันหนาวให้ แต่พอไฟมอด ก็หนาวสุดๆ

 


พรุ่งนี้จะสำรวจเมืองเพิ่ม และจะเดินไปให้ใกล้ Nanga Parbat ที่สุด ปลายทางคือ Base camp จะไปถึงหรือเปล่า ติดตามตอนต่อไป

เดือนไหนดี?

Fairy Meadows สามารถเยี่ยมชมได้ตั้งแต่เดือนปลายเดือนเมษายน-ตุลาคม เดือนที่ดีที่สุดคือ เมษายน-พฤษภาคม และ กันยายน-ตุลาคม เนื่องจากคนไม่มาก และที่พักราคาถูก

แต่หน้าร้อน คือช่วง เดือนมิถุนายน-สิงหาคมนั้น ถือเป็นพีคซีซั่น เนื่องจากนักท่องเที่ยวมุ่งหน้ามาที่นี่ เพื่อเทรคกิ้ง ผู้คนจะพลุกพล่าน อุณหภูมิค่อนข้างร้อน 

นัทเดินทางเข้าแฟรี่มีโดวส์ ในเดือนเมษายนและพบว่า อากาศหนาวมาก หิมะท่วม ระหว่างทางไป Beyal camp และหิมะเป็นอุปสรรคในการเดินทางให้ไปต่อไม่ได้ เพราะยิ่งไกล หิมะยิ่งสูงถึงเอว

Nanga Parbat Base Camp เป็นอีกจุดหนึ่งที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งก็คือในเดือน ตุลาคม

การเตรียมตัวและเตรียมอุปกรณ์ที่ถูกต้อง

เนื่องจากเป็นพื้นที่ขึ้นเขา แนะนำให้แบ่งของบรรจุลงในเป้แบบเดย์แพค ที่มีอุปกรณ์เสื้อกันหนาวให้ความอบอุ่นติดตัวไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นช่วงพีคหรือช่วงธรรมดา รวมถึง กล้องถ่ายรูป ไม้เทรคกิ้งโพล (กรณีอยากพิชิตเบสแคมป์) กระเป๋าเป้สะพายหลังแนะนำขนาด 35-40 ลิตรก็เพียงพอ 

ด้านบนมีที่พักและอุปกรณ์สำหรับกันหนาว รวมทั้งเตาผิงและไม้สำหรับจุดไฟให้ความอบอุ่น แต่ทั้งนี้ อาจต้องนำถุงนอนมาด้วยเพราะบางครั้งผ้าห่มที่บ้านพักเตรียมไว้ให้ก็อาจไม่ได้ช่วยอะไรมากในฤดูหนาว

การเดินทางไปแฟรี่ มีโดวส์

มี 2 วิธีในการไปถึง Gilgit-Baltistan

วิธีที่หนึ่ง คือบินจากอิสลามาบัดไปลงที่กิลกิต Gilgit มีเที่ยวบิน 3 เที่ยวบินต่อวัน แต่ด้วยสภาพอากาศที่ปากีสถานมีโอกาสเพียง 60% ที่เที่ยวบินจะออกเดินทาง ดังนั้นควรเตรียมแผนสำรองไว้ด้วย  ตั๋วเที่ยวเดียวมักจะมีราคาประมาณ $ 100-$140

จาก Gilgit ใช้เวลาขับรถสองชั่วโมงไปยังสะพาน Raikot

การเดินทางโดยเครื่องบิน จะสะดวกที่สุดสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพบกับการเดินทางอันยุ่งยากบนถนนคาราโครัมไฮเวย์ เพราะถึงแม้เส้นทางจะสวยงาม  แต่ก็อาจทำให้หงุดหงิดได้เช่นกัน เพราะมักเกิดดินถล่มเป็นประจำ หรืออุบัติเหตุที่กีดขวางการจราจร และถนนคาราโครัมย์ไฮเวย์เป็นถนนเพียงเส้นเดียวที่วิ่งตรง ไม่มีทางเบี่ยง ดังนั้น หากเกิดสิ่งกีดขวาง ทุกคนจะต้องรอ เคลียร์เส้นทาง ซึ่งไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ และอาจทำให้เกิดความล่าช้าหลายชั่วโมงหรือหลายวัน

ทางเลือกที่สอง คือการขับรถไม่ว่าจะโดยระบบขนส่งสาธารณะหรือส่วนตัว

บริการขนส่งสาธารณะ ถือว่าถูกที่สุด และจะต้องใช้เส้นทางคาราโครัมไฮเวย์ ผ่านเมือง Besham ซึ่งใช้เวลาเดินทางถึงสะพาน Raikot นานถึง 16-18 ชั่วโมงในสภาวะปกติ เป็นไปได้มาก ว่าจะเกิดความล่าช้ากว่านั้น จาก เหตุการณ์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น  วิธีนี้เหมาะกับคนมีเวลาและความอดทนมากพอ

ทางเลือกที่ดีกว่าคือไปหารถไปแบบส่วนตัว แต่ก็อาจจะพบอุปสรรคระหว่างทางเช่นเดียวกัน

การเดินทางเมื่อถึงสะพาน Raikot

1. เดินทางไปถึงสะพาน Raikot จากนั้นนั่งรถจี๊ปขึ้นไปที่ Fairy Meadows 

2. นั่งรถจี๊ป สู่ถนนที่อันตรายที่สุดในโลก ถนนเส้นนี้มักถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในถนนที่อันตรายที่สุดในโลก เส้นทางรถจี๊ปจากสะพาน Raikot ไปยัง Fairy Meadows ไม่เหมาะสำหรับคนขี้กลัว เพราะทั้งหวาดเสียว และเขย่าไปตลอดทาง ระยะทางชั่วโมงครึ่งสุดแสนจะทรมาน แต่ถนนก็ยังค่อนข้างปลอดภัย เพราะคนขับมืออาชีพที่ชำนาญเส้นทางอย่างมาก มีการขยายถนนให้กว้างขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากนั้นอุบัติเหตุก็น้อยลง 

3. จากสะพาน Raikot จะมองเห็นแนวรถจี๊ปจอดข้างถนน อัตราค่าโดยสารอยู่ที่ 8,000 รูปีต่อคัน คันหนึ่งนั่งได้ประมาณ 4-5 คน 

4. ระยะเวลาขึ้นเขา คือ 1.5 ชั่วโมง ควรนั่งทางซ้ายมือเพื่อชมทิวทัศน์ที่สุดตระการตาและหวาดเสียว

5. รถจี๊ปจะไปส่งเราที่บริเวณที่จอดรถของหมู่บ้าน Tato ขากลับสามารถนัดหมายให้คนขับมารับได้ ที่จุดเดิมนี้

6. ข้ามสะพานไปจนถึงร้านน้ำชาก่อนขึ้นเขา และ นี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินป่าขึ้นสู่ Fairy Meadows ใครที่อยากใช้ม้าขึ้นเขาก็สามารถติดต่อได้ที่จุดนี้ 

7. ม้าเป็นพาหนะที่ใช้พาขึ้นไปสู่ Fairy Meadows เจ้าของม้าจะเรียกเก็บเงิน โดยคิดเป็นกิโลกรัมเพื่อแบกสัมภาระขึ้นเขาให้ ในอัตรา 150 รูปีต่อกิโลกรัม หากต้องการขี่ม้าขึ้น ราคาคือ  1,500 รูปีเที่ยวเดียวหรือไปกลับ 2,500 รูปี

8. คำเตือน การขี่ม้าเป็นเรื่องหวาดเสียวพอสมควร เพราะม้าชอบเดินชิดหน้าผา และเดินโยก หากเดินไหว สามารถใช้ม้าบริการยกของ แล้วเดินตัวเปล่าขึ้นไปด้านบน Fairy Meadowsเส้นทางนี้มีความยาว 5 กม. และชัน 700 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 2-3 ชั่วโมง

9. ครึ่งแรกของเส้นทางเลียบหน้าผาและหุบเขา เป็นวิวที่เปิดโล่ง หากเดินตอนเที่ยงวันในฤดูร้อน เส้นทางนี้จะร้อนมาก

10. เมื่อเดินทางไปถึงโรงแรม Midway  จะหมายถึง เราเดินมาเกินครึ่งทางแล้ว เส้นทางที่เหลือจะผ่านป่าสนที่สวยงามและร่มรื่น หลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที ทางจะเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ

11. และในที่สุด ก็ถึงทุ่งหญ้าแห่งเทพนิยาย 

ราคาเฉลี่ยของห้องพักที่ Fairy Meadows อยู่ระหว่าง 2,000-3,000 รูปี Raikot Serai เป็นโรงแรมที่แพงที่สุด และมีราคา 7,000 รูปีต่อคืน

สิ่งที่ต้องทำใน Fairy Meadows

กิจกรรมที่ 1 เดินป่าไปยัง Nanga Parbatเบสแคมป์ เป็นการเดินป่าแบบไปเช้าเย็น กลับที่ดีที่สุดในปากีสถาน ได้ใกล้ชิด Nanga Parbatที่ยิ่งใหญ่ แค่เงยหน้ามอง

การเดินป่าอาจใช้เวลาประมาณ 5-8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความแข็งแรง และสภาพของเส้นทาง ระยะทางประมาณ 9 กม. และชัน 700 เมตร เส้นทางเป็นแบบไป-กลับ ในเส้นทางเดิม

การเดินไปยัง Nanga Parbat เบสแคมป์

1. ช่วงครึ่งแรกของการเดินป่าค่อนข้างง่าย เดินผ่านทุ่งหญ้า หลังจากสองชั่วโมง จะมาถึงค่าย Beyal Camp ซึ่งสามารถดื่มชาและรับประทานอาหารกลางวันที่นี่ 

2. อีกหนึ่งชั่วโมงจะถึงจุดกึ่งกลางหรือที่เรียกว่าจุดชมวิว Nanga Parbat View Point แนะนำว่าต้องมีไกด์ท้องถิ่นเดินทางไปด้วยเท่านั้น 

3. ช่วงสุดท้ายจะเป็นเนินสูงชันขึ้นเขาที่ด้านบนสุดคือ Nanga Parbat Base Camp เมื่อไปถึงเบสแคมป์ เราแทบจะอยู่ด้านหน้าของภูเขาที่มีความสูง 8,126 เมตรพอดี เหมือนเรากำลังเผชิญหน้ากับยอดเขา Nanga Parbat 

4. ประมาณการณ์น่าจะใช้เวลาเดินถึงในช่วงบ่าย ก่อนจะเดินทางกลับเส้นเดิม

กิจกรรมที่ 2 ค้นหาแอ่งน้ำสะท้อน จุดถ่ายรูปอันเลื่องชื่อที่ทำให้แฟรี่มีโดวส์มีชื่อเสียงอย่างมาก

แอ่งน้ำนี้ เป็นแค่แองน้ำเล็กๆ เกินกว่าจินตนาการไปมาก เหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่เป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวที่ดีที่สุดของ Nanga Parbat ใน Fairy Meadows ทั้งหมด รวมทั้งภาพที่สะท้อนผ่านน้ำ แอ่งน้ำนี้ตั้งอยู่ด้านหลังสนามคริกเก็ตและติดกับแชมบาลารีสอร์ท 

บ่อน้ำสะท้อนแสง จะสวยที่สุดเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น และเวลาอื่นจะได้ภาพย้อนแสง

สนใจท่องเที่ยวปากีสถานกับเรา ติดต่อ

เบอร์โทรศัพท์

062-649-4644 090-561-5161

อีเมล์

koffeetravel@hotmail.com

Line Official Account

https://page.line.me/koffeenutt

หรือติดตามเราได้ที่

https://www.facebook.com/koffeenutt

https://www.youtube.com/c/RadaNutt


รูปภาพทั้งหมดถือเป็น ลิขสิทธิ์ภาพถ่ายของทาง Koffee Nutt Travel Planner ไม่อนุญาตให้ผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง เพื่อทางการค้าและการพาณิชย์ 

กรณีใช้เพื่อการส่วนตัว อนุญาตให้ใช้ได้ค่ะ ❤️


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เที่ยวปากีสถาน กับ Koffee Nutt ตอน มัสยิดไฟซาล Faisal Mosque แห่งกรุงอิสลามาบัด

เที่ยวปากีสถาน กับ Koffee Nutt  ตอน มัสยิดไฟซาล Faisal Mosque แห่งกรุงอิสลามาบัด มัสยิดไฟซาล เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในปากีสถาน ตั้งอยู่บนเชิงเขามาร์กอลล่า ในกรุงอิสลามาบัด ครั้งหนึ่งมัสยิดไฟซาล เคยเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือน มัสยิดไฟซาลถือเป็นของขวัญจากกษัตริย์ไฟซาล บิน อับดุล-อาซิซ อัล ซาอุด แห่งซาอุดีอาระเบีย มัสยิดแห่งนี้ตั้งชื่อตามท่านเพื่อเป็นเกียรติแก่ความมุ่งมั่นในการก่อสร้างผลงานชิ้นเอกนี้  ประวัติความเป็นมา ย้อนกลับไปในปี 1966 เมื่อกษัตริย์ไฟซาลเสด็จเยือนปากีสถาน ท่านได้แสดงเจตจำนงในการสร้างมัสยิดในกรุงอิสลามาบัด เกือบสามปีต่อมา ได้มีการจัดการแข่งขันออกแบบมัสยิดขึ้น โดยมีสถาปนิกจาก 17 ประเทศเข้าร่วม ในที่สุด สถาปนิกชาวตุรกี Vedat Dalokay ก็ชนะการแข่งขันในออกแบบมัสยิดแห่งนี้ รัฐบาลปากีสถานได้มอบที่ดินประมาณ 46 เอเคอร์ใกล้กับอุทยานแห่งชาติ Margalla Hills สำหรับโครงการนี้ โดยได้รับมอบหมายให้ National Construction Limited ของปากีสถาน ภายใต้การดูแลของ Azim Khan เป็นผู้ดำเนินการก่อส...

เที่ยวปากีสถาน กับ Koffee Nutt ตอน พาเดินตลาด Itwar Bazar ที่ อิสลามาบัด

  เที่ยวปากีสถาน กับ Koffee Nutt  ตอน พาเดินตลาด Itwar Bazar ที่ อิสลามาบัด  ITWAR BAZAAR  ตั้งอยู่ในกรุงอิสลามาบัด ใกล้ Peshawar Morr มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ตลาดวันอาทิตย์ แต่เปิดในวันอังคาร วันศุกร์ และวันอาทิตย์ ถือเป็นตลาดที่มีชื่อเสียงที่สุด ที่นี่สามารถมาหาซื้อของได้ทั้งของใหม่ และของมือสองคุณภาพดี ที่สำคัญราคาถูก  พอไปถึงจะเจอคนปากีสถานจำนวนมาก ออกมาจับจ่ายซื้อของ รถก็เยอะมาก บางจุดรถติดฃ ขายของเหมือนตลาดนัดบ้านเรา ที่มีรวมทุกอย่างตั้งแต่ เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องครัว ของแต่งบ้าน ของมือสอง ของเล่นเด็ก อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง ด้านหลังมีตลาดสด แต่ Food Court ในช่วงที่นัทไปโซนขายอาหารปิดหมดในตอนกลางวัน เนื่องจากอยู่ในช่วงของ รอมฎอน จะเปิดอีกทีตอน 17.30 น  โซนผักผลไม้สด โซนเครื่องเทศ โซนของทอด  โซนของแห้ง น้ำอ้อยเย็นๆสักแก้ว แก้คอแห้ง โซนต้นไม้ อิสลามาบัดในเดือนเมษายน อุณหภูมิ 31 องศา ร้อนมาก ร้อนจนไม่อยากออกไปทำอะไร ทำให้การเดินตลาดดูไม่มีความสุขมากเท่าที่ควรเลยค่ะ  คำแนะนำอื่นๆ  ที่ตัวเมืองอิสลามาบัด เอาจริงๆ ถ้าจะมาเที่ยว ครึ่งวันก็ไม่มีอะไรท...

เที่ยวปากีสถาน กับ Koffee Nutt ตอน พรหมแดน ปากีสถาน-จีน คุนจีราบ Khunjerab Pass

  เที่ยวปากีสถาน กับ Koffee Nutt  ตอน พรหมแดน ปากีสถาน-จีน คุนจีราบ Khunjerab Pass วันนี้โปรแกรมของเราคือเข้าไปที่ พรหมแดน ปากีสถาน-จีน ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของทางหลวงคาราโครัม ตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 15,397 ฟุต ที่หิมะท่วม และหนาวมาก ตอนแรกเกือบต้องลงเดินเท้า 3 กิโลเมตรเพราะหิมะเกาะตัวที่ถนน จนกลายเป็นน้ำแข็ง ทำให้ลื่นมาก รถติดหล่ม ต้องเอากรวดมาโรย แต่สุดท้ายก็ผ่านไปได้ ที่นี่เค้าขึ้นป้ายไว้เลยว่าเป็นพื้นที่ของ Snow Leopard แต่ก็อย่างว่า ไม่ได้ออกมาให้เห็นง่ายๆ แต่ระหว่างทางนัทเจอสัตว์อยู่ตามข้างทาง ทั้ง Ibex หรือแพะภูเขา Marmot รวมทั้งเจอสุนัขจิ้งจอกวิ่งข้ามถนน หางเป็นพวงเลย  เนื่องจากบริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์จำนวนมาก เช่น แกะมาร์โคโปโล, แกะสีน้ำเงิน blue sheep, Himalayan Ibex หรือแพะภูเขาหิมาลัย ,ลาป่าทิเบต Tibetan wild ass, หมีสีน้ำตาล Brown bear, เสือดาวหิมะ Snow leopard, หมาป่าอินเดีย Indian wolf ฯลฯ หลังจากลงทะเบียนรถที่ด่านตรวจและซื้อตั๋วเข้าอุทยานแห่งชาติคุนจีราบแล้ว ก็มีทหารหนึ่งคน พาเราเข้าไปยังบริเวณชายแดน อากาศเบาบางที่ระดับความสูง 4,7...